Wednesday, January 23, 2008

รำลึก = ยุทธตู้เย็น = ตอนที่ 1



Copy มาจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=195991

โปรดศึกษาความเป็นนายยงยุทธ "ว่าที่ ประธานสภาผู้แทนราษฎร" ดังนี้...

นายยงยุทธ เป็นชาวจังหวัดเชียงราย ปัจจุบันอายุ 46 ปี

ประวัติการศึกษา
สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีคณะเกษตรศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหาร มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ปี 2526

สำเร็จการศึกษาปริญญาโทร สาขาการเมืองการปกครอง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปี 2536

และหลังจากเหตุการณ์ "รัฐประหาร 19 กันยายน 2549" นายยงยุทธก็ได้ไปศึกษาต่อระดับปริญาเอก ด้านสิ่งแวดล้อม ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา

ประวัติการเมือง

2539 ลงสมัครรับเลือกตั้งในนาม "พรรคประชาธิปัตย์" และได้รับชัยชนะ จากนั้นดำรงตำแหน่ง "เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี"

2544 ย้ายมาสังกัด "พรรคไทยรักไทย" และได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง จากนั้นดำรงตำแหน่ง "โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี" , "เลขาธิการนายกรัฐมนตรี" และ "รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม" ในที่สุด

จากนั้นโปรดศึกษา "บทบาท" ทางการเมืองของนายยงยุทธ ทั้ง "บนดิน" และ "ใต้ดิน" ดังนี้...

นายยงยุทธ ถือได้ว่าเป็น "มือขวา" ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้วางใจมากที่สุดคนหนึ่ง เพราะทั้งนี้ว่ากันว่านายยงยุทธ เป็นผู้ที่ "รู้งาน - รู้ใจ" พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นอย่างมาก และหาก พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งการให้นายยงยุทธ ดำเนินการ "การเมือง" เรื่องใด นายยงยุทธจะสามารถปฏิบัติบรรลุเป้าหมายได้อย่างดีและถึงพริกถึงขิงในเกือบทุกวาะ ซึ่งถือได้ว่านายยงยุทธ เป็น "สายตรง" ของ "บ้านจันทร์ส่องหล้า" ที่เหนียวแน่นมากที่สุดคนหนึ่ง

นายยงยุทธ นับบว่าเป็น "เงื่อนไข" ที่สำคัญคนหนึ่งในการนำมาซึ่งการ "ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549" เพราะก่อนหน้านั้นเพียง 2-3 วัน ได้ปรากฏกระแสข่าวที่ว่านายงยุทธ อยู่เบื้องหลังการนำลูกจ้างชั่วคราวของ "กรมป่าไม้" เพื่อเข้ามาก่อกวนและปะทะกับกลุ่ม "พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย" ที่จะมีการชุมนุมใหญ่ในวันที่ 20 กันยายน 2549

นายยงยุทธ ได้รับสมญานามจาก "ผู้สื่อข่าว" ว่า "ยุทธ ตู้เย็น" ***โปรดอ่านเชิงอรรถ

หลังการ "รัฐประหาร 19 กันยายน 2549" นายยงยทุธ ปลีกตัวไปศึกษาต่อที่ประเทศสหรัฐอเมริกานานนับ 1 ปี จนกระทั่งทิศทางการเมืองไทยมุ่งสู่ "การเลือกตั้ง" อย่างเต็มตัว นายยงยุทธ จึงหวนกลับสู่การเมืองอีกครั้งหนึ่ง โดยปรากฏความเคลื่อนไหวทางการเมืองอย่างต่อเนื่อง ดังนี้

ก่อนการเลือกตั้งในการปราศรัยครั้งหนึ่งของ "พรรคพลังประชาชน" นั้น นายยงยุทธ ได้กล่าวพาดพิง "พรรคการเมือง" บางพรรคว่า ทำตัวเป็นการเมืองที่ยอม "กินฉี่" ทหารที่ทำการ "ปฏิวัติ 19 กันยายน 2549" จนนำมาซึ่งการ "ตีความ" ว่านายยงยุทธ ต้องการพาดพิงนายบรรหาร ศิลปอาชา หัวหน้า "พรรคชาติไทย" อันทำให้สภาวะทางการเมืองในขณะนั้น "อึมครึม" พอสมควร

และแม้ว่าการณ์จะดำเนินลุล่วงผ่านการเลือกตั้ง แต่นายยงยุทธ ก็ยังเป็น "เงื่อนไข" ทางการเมืองที่มีความพยายามให้นำไปสู่การยุบ "พรรคพลังประชาชน" อันเนื่องมาจากกรณีการทำผิดกฎหมายการเลือกตั้งของนายยงยุทธ ที่ยังคงอยู่ระหว่างการสอบสวนของ กกต. ดังนั้นจึงต้องไม่ลืมว่าการที่นายยงยุทธ เข้าสู่ "รัฐสภา" ในครั้งนี้นั้น นายยงยุทธ ยังดำรงความเป็น "ว่าที่ สส. สีเทา" อยู่

จากเศษเสี้ยวบทบาทของนายยงยุทธ จะเห็นได้ว่านายยงยุทธ มี "เงื่อนไข" ต่างๆ ที่ยังไม่สามารถจะ "เคลียร์" ให้พ้นตัวเอง

ด้วยเหตุนี้จึงควรค่าต่อคำถามที่ว่า นายยงยุทธ เป็นผู้เดียวที่เหมาะสมและคู่ควรแก่ตำแหน่ง "ประธานสภาผู้แทนราษฎร" หรือไม่!? แล้วเหตุใด "พรรคพลังประชาชน" จึงใคร่ที่จะเสนอนายยงยุทธ เป็น "ประธานสภาผู้แทนราษฎร"!?

แต่เมื่อสถานการณ์การเมืองเป็นไปดังที่ปรากฏ ก็จะเท่ากับว่าการส่งนายยงยุทธ สู่ตำแหน่ง "ประธานสภาผู้แทนราษฎร" ในครั้งนี้ เป็นการ "ปูนบำเหน็จ" จาก พ.ต.ท.ทักษิณ หัวหน้า "พรรคพลังประชาชน" ตัวจริง

ดังนั้นจึงขอให้รับชมรับฟังการเปิดประชุม "สภาผู้แทนราษฎร" ในเวลอันใกล้นี้ให้จงดีว่านายยงยุทธจะได้นั่งในตำแหน่ง "ประธานสภาผู้แทนราษฎร" หรือไม่!? และหากคำตอบดังกล่าว คือ นายยงยุทธ จริง ...จะมีท่าน "สส." ผู้ทรงเกียรติคนใด จะเอ่ยประโยค "ประธาน(ยุทธ ตู้เย็น)ที่เคารพ" เป็นคนแรก!?

และท่าน "สส." ที่ "นำเรียน" ท่าน "ประธาน(ยุทธ ตู้เย็น) ด้วยความเคารพ" เมื่อใด ...ขอจงมั่นใจว่า "ผู้แทน" ท่านนั้น จะไม่ใช่ผู้แทนของผมอีกต่อไป!!!

--------------------------------------------------------------------------------

เชิงอรรถ : "ยุทธ ตู้เย็น"
ฉายายุทธ ตู้เย็น ได้มาจากกรณีของครอบครัวศตะกูรมะ เมื่อ พ.ศ. 2547 ในปฏิบัติการสนองนโยบาย สงครามกับยาเสพติดของรัฐบาลทักษิณ เมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 7 กรกฎาคม 2547 ตำรวจคอมมานโด นำโดย พล.ต.ต.โกสินทร์ หินเธาว์ ผู้บังคับการกองปราบปราม นำกำลังเข้าปิดล้อมบ้านของนายนิสสัย ศตะกูรมะ อายุ 70 ปี และนางอุดม ศตะกูรมะ อายุ 67 ปี ที่ตำบลเชียงรากน้อย อำเภอบางไทร พระนครศรีอยุธยา และเปิดฉากยิงถล่ม โดยได้ข้อมูลจากนายยงยุทธ ซึ่งขณะนั้นดำรงตำแหน่งเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่าบ้านหลังนี้เป็นแหล่งผลิตและค้ายาบ้า โดยนายยงยุทธได้ข้อมูลจากตู้ ปณ.ร้องทุกข์นายกรัฐมนตรี

ภายหลังเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจค้นและไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใดๆ แต่สภาพบ้านเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะตู้เย็นในบ้านมีรูกระสุนกว่า 50 นัด นายนิสสัย และนางอุดม ศตะกูรมะ ซึ่งอยู่บนบ้านเพียงสองคนในวันนั้นถูกคุมตัว ใช้ปืนเอ็ม 16 จ่อศีรษะนานหลายชั่วโมงจนถึงเช้า ทางการตำรวจแถลงในภายหลังว่าได้รับข้อมูลที่ผิดพลาด และยินดีที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ทั้งหมด โดยนำตู้เย็นใบนั้นกลับไปด้วย อ้างว่าจะซื้อให้ใหม่ ต่อมาทางครอบครัวศตะกูรมะได้ติดต่อขอคืน เพื่อนำมาเก็บไว้เป็นที่ระลึก

ในวันต่อมา บุตรชายคนสุดท้องของนายนิสสัยและนางอุดม ซึ่งต้องคดีอาญา และถูกคุมขังอยู่ที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพ เพิ่งได้รับพระราชทานอภัยโทษ และกำลังจะได้รับการปล่อยตัว กลับเสียชีวิตอย่างปริศนาในห้องขัง แพทย์ระบุสาเหตุการตายว่า "ระบบหายใจไหลเวียนโลหิตล้มเหลวจากพยาธิสภาพปอด และตับ" รายงานผลการตรวจโดยห้องปฏิบัติการระบุว่า พบสตริกนิน (Strychnine) ในกระเพาะอาหาร ต่อมาสถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงว่าเกิดความผิดพลาดในการพิมพ์ผลการตรวจ โดยเจ้าหน้าที่ธุรการพิมพ์ตกคำว่า "ไม่" ในรายงาน และนายแพทย์ผู้ตรวจก็เซ็นรับรองไปโดยไม่ได้ตรวจสอบให้ละเอียด

ภายหลังเหตุการณ์นี้ สื่อมวลชนจึงตั้งฉายาให้นายยงยุทธ ว่า "ยุทธ ตู้เย็น"

(ที่มา : http://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B8%A2%E0%B8%87%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98_%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%A2%E0%B8%B0%E0%B9%84%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%8A)

0 comments: