Friday, October 24, 2008

แถลงการณ์ของมัน

วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2551 เวลา 03:13:23 น. มติชนออนไลน์

คำต่อคำ แถลงการณ์ "ทักษิณ" แจกสื่อนอกประจานไทยทั่วโลก (ภาษาอังกฤษฉบับเต็ม-คำแปล)

จดหมายแถลงการณ์ของ "ทักษิณ" ที่แจกสื่อมวลชนต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ)


Woodsome Manor
Surrey, England
22 of October, 2008

Dear My Friends in International Media,

I am writing to you today to clarify few facts, The news headlines have reported that I have been convicted of corruption for two years stemming from the purchase of land by my wife, Khunying Potjaman Shinawatra.

What you have read is true, I was convicted for two years, but not because of corruption charge. The only reason I was sentenced to Jail is because at the time my wife bought the land through the open bid, I was the Prime Minister.

I listened to the judgment yesterday and even now I am still confused ; there is no evidence of fraud, corruption nor abuse of power in relation to the bid in question; my wife was the one who in volved and made decision to bid for the land, offered a lot more seller, Financial Instit ution Development Fund (FIDF), than other bidders, signed the contract with the seller, paid for the land with no involvement from her husband except when he was required to sign a spousal consent form, In terms of any alleged influence I may have had no direct supervisory power over the FIDF. Interestingly, the Court did not find the sale transaction of my wife unlawful or illegal, they did not convict her because she is not a politician; nevertheless, I was . I trust that you will independently verify the above facts as professional journalists often do. Unfortunately, most of you professsional colleagues in Thailand refuse to do so.

The best. I can comprehend is that I was convicted simply because I was a politician . In that case I was quite guite guilty cause I was quite a successful politician, I got elected twice by the majority of thai people as Prime Minister.

If I were to be guilty of anything, that would be what I have shown to the Thai people, especially those underprivileged rural thais that they can, and have the right to, demand their government to provide effective policy and programs to improve their lives.

I received this judgment with mixed feeling; relief for my wife as I pulled her into enough troubles because of my politcal ambition to bring greatness and well-being to my country and my people, amused and bitter with the illogical of the judgment, and worry for those politicians in Thailand that they could go to jail simply because their unhappy spouses may sought to manipulate the law.

For those of you who may not be too familiar with Thailand, state offices and enterprises in Thailand are doing so many businesses from telecommunication, banking, power generator or even owning gas stations.

I do not know should I laugh or cry to see the direction Thailand is moving forward: a democratically elected leader was put out of job because he cooked on a TV show but those who unlawfully trespassed and occupying the government house got protection from the Court.

Whatever happen to me is a political driven actions collaborated by various group of privileged elites who believe in anything but democracy. I am a threat to them because I represent the principle of liberal democracy which promote hope and pride of the poor of my country.

Thailand is and will remain a great and beautiful country. Few people cannot face the face,obstructing the will of majority of the people. I believe that at the end Thai people will win over this struggle. And the end of their nightmare is not far.

I thank you for the opportunity to share the facts with you.

Truly Yours,
Dr. Thaksin Shinawatra

.......................................


คำต่อคำ แถลงการณ์ "ทักษิณ" แจกสื่อนอกประจานไทยทั่วโลก (คำแปล)

วูดซัม แมเนอร์
เซอร์เรย์, อังกฤษ
22 ต.ค. 51

เรียน เพื่อนสื่อมวลชนต่างประเทศ

สิ่งที่ผมกำลังเขียนถึงพวกคุณในวันนี้เพื่อให้ความกระจ่างในข้อเท็จจริงบางอย่าง ข่าวพาดหัวที่มีการรายงานว่าผมถูกตัดสินว่ามีความผิดจากการทุจริตต้องโทษจำคุก 2 ปีจากการซื้อที่ดินของภรรยาผม, คุณหญิงพจมาน ชินวัตร

สิ่งที่คุณจะได้อ่านต่อไปนี้คือความจริง ผมถูกตัดสินโทษจำคุก 2 ปี ไม่ใช่เพราะข้อหาทุจริต เหตุผลเดียวที่ผมถูกสั่งจำคุก เพราะในช่วงเวลาที่ภรรยาของผมซื้อที่ดินโดยการเปิดประมูลนั้น ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ผมได้ฟังคำตัดสินเมื่อวันก่อนและจนถึงตอนนี้ ผมยังคงสับสน เพราะไม่มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่ามีการฉ้อฉล คอร์รัปชั่น หรือกระทั่งการใช้อำนาจในทางมิชอบที่เกี่ยวเนื่องกับประมูล คำถามคือ ภรรยาของผมเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องและตัดสินใจยื่นประมูลที่ดินดังกล่าว เป็นผู้ยื่นเสนอราคาจำนวนมากแก่ผู้ขายซึ่งคือ กองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน มากกว่าผู้ยื่นประมูลรายอื่นๆ เป็นผู้เซ็นสัญญาซื้อขายกับผู้ขาย จ่ายเงินค่าที่ดินโดยที่สามีไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆเลย ยกเว้นเมื่อต้องเซ็นชื่อยินยอมในเอกสาร

ในแง่ของข้อกล่าวหาเรื่องอิทธิพลอำนาจที่ผมอาจมีเหนือกองทุนฟื้นฟูฯ มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องชี้ให้เห็นว่าคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรีไม่ได้มีอำนาจควบคุมโดยตรงเหนือกองทุนฟื้นฟูฯ เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งที่ศาลไม่ได้พบว่าการซื้อขายที่ดินของภรรยาผมมีอะไรที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายหรือเป็นการกระทำนอกกฎหมาย เขาไม่ได้ตัดสินว่าเธอมีความผิด เพราะเธอไม่ใช่นักการเมือง แต่ผมเป็น ผมเชื่อว่าพวกคุณจะตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เหลืออย่างอิสระเยี่ยงผู้สื่อข่าวมืออาชีพปฏิบัติกัน แต่น่าเสียดายที่เพื่อนร่วมอาชีพของคุณส่วนใหญ่ในประเทศไทยปฏิเสธที่จะทำเช่นนั้น

สิ่งที่ผมจะสามารถทำความเข้าใจได้ดีที่สุดก็คือ ผมถูกตัดสินว่ามีความผิดจริงอย่างง่ายๆ เพียงเพราะผมเป็นนักการเมืองคนหนึ่งเท่านั้นเอง ผมผิดเพราะผมเป็นนักการเมืองที่ประสบความสำเร็จ ผมได้รับเลือกตั้งขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรีถึงสองสมัยเพราะเสียงส่วนใหญ่จากประชาชน

ถ้าหากผมจะมีความผิดอะไรสักอย่าง นั่นก็คงเป็นสิ่งที่ผมได้แสดงออกมาให้ประชาชนชาวไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนไทยกลุ่มที่อยู่ในชนบทและไม่มีอภิสิทธิ์ใดๆ ได้เห็นว่าพวกเขาสามารถเรียกร้องและมีสิทธิเรียกร้องให้รัฐบาลของพวกเขาจัดทำนโยบายที่มีประสิทธิภาพและทำโครงการต่างๆที่จะยังผลให้ชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาดีขึ้น

ผมยอมรับคำตัดสินนี้ด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน รู้สึกโล่งใจสำหรับภรรยาที่ผมดึงเธอเข้าไปสู่ความยากลำบากมากทีเดียว เพราะความทะเยอทะยานทางการเมืองของผมในการที่จะนำความยิ่งใหญ่และความเป็นอยู่ที่ดีมาสู่ประเทศและประชาชนของผม ทั้งรู้สึกนึกขัน ปนขมขื่นกับคำตัดสินที่ไร้เหตุผล และรู้สึกกังวลแทนนักการเมืองในประเทศไทยว่า พวกเขาสามารถเดินเข้าคุกไปได้ง่ายๆเพียงเพราะภรรยาที่โชคร้ายของพวกเขาพยายามทำตามกฎหมาย

สำหรับพวกคุณที่อาจไม่คุ้นเคยกับประเทศไทย ภาครัฐและภาคเอกชนในไทยที่กำลังดำเนินธุรกิจหลายๆ ด้าน ตั้งแต่ สื่อสารโทรคมนาคม ธนาคาร ไฟฟ้าหรือแม้กระทั่งปั๊มน้ำมัน

ผมไม่ทราบว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีกับทิศทางที่ประเทศไทยกำลังมุ่งไป ผู้นำที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยถูกขับพ้นจากตำแหน่ง เพียงเพราะว่าเขาทำรายการโทรทัศน์ แต่กลุ่มคนที่ล่วงละเมิดผิดกฎหมายและยึดครองทำเนียบรัฐบาลกลับได้รับความคุ้มครองจากศาล

ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับผม ล้วนแต่เป็นการกระทำที่เกิดจากแรงขับเคลื่อนทางการเมือง ซึ่งเป็นการสมคบกันของ บรรดาชนชั้นสูงที่มีอภิสิทธิ์ทั้งหลาย ผู้เชื่อในทุกสิ่งอย่าง ยกเว้นประชาธิปไตย ผมเป็นภัยคุกคามต่อพวกเขา เพียงเพราะผมเป็นตัวแทนของหลักการแห่งระบอบเสรีประชาธิปไตย ซึ่งส่งเสริมความหวังและความภาคภูมิใจของคนยากคนจนในประเทศของผม

ประเทศไทยเป็นและจะยังคงเป็นประเทศที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม คนจำนวนไม่มากที่ไม่สามารถเผชิญกับความจริงได้ กำลังขัดขวางเจตจำนงของคนส่วนใหญ่ ผมเชื่อว่าในท้ายที่สุดพี่น้องชาวไทยจะเป็นผู้ชนะในการต่อสู้ครั้งนี้ และการสิ้นสุดของฝันร้ายอยู่ไม่ไกล

ผมขอขอบคุณที่ให้โอกาสผมได้ร่วมแบ่งปันข้อเท็จจริงกับคุณ

ด้วยความนับถือ
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

Saturday, October 11, 2008

บทสัมภาษณ์ช่างกล้องในเหตุการณ์วันที่ 7 ต.ค. 2551

http://www.oknation.net/blog/jaofoto/2008/10/10/entry-1

Tuesday, October 07, 2008

ใครคือคนที่จัดการกับผู้ชุมนุม



ข่าวจาก http://www.bangkokbiznews.com/2008/10/07/news_300837.php


พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว รับสั่งจากนาย ให้มาปราบม็อบพันธมิตร

(Update) พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว ผบช.น.รับคำสั่งอดีตนายกฯสมัคร สุนทรเวช ให้มาปราบปรามกลุ่มพันธมิตรฯที่บุกเข้าไปในทำเนียบหลัง"พล.ต.ท.อัศวิน ขวัญเมือง"ปฏิบัติงานไม่สำเร็จ

กรุงเทพ ธุรกิจ ออนไลน์ : นับว่า "พล.ต.ท.สุชาติ " ได้รับอนิสงค์ จากนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ที่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งการโยกย้ายนายตำรวจ โดยให้ พล.ต.ต.สุชาติ ขึ้นดำรงตำแหน่งผบช.น.แทน "พล.ต.ท.อัศวิน "ที่ถูกดันขึ้นไปดำรงตำแหน่งผู้ช่วยผบ.ตร.

เหตุผลในการการเปลี่ยนแปลงตัวแม่ทัพ นครบาลในครั้งที่ผ่านมา มาจากกรณีที่"พล.ต.ท.อัศวิน"การดำเนินการปราบปรามกลุ่มพันธมิตรฯที่บุกเข้า ไปในทำเนียบรัฐบาลไม่เป็นผลสำเร็จ

ด้วยเหตุนี้"พล.ต.ท.สุชาติ"จึงได้รับ ไฟเขียวจากคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) และการประทับตราผ่านจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ให้ขึ้นนั่งเก้าอี้ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.)

"พล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว"เกิด เมื่อ 4 มกราคม 2494 อายุ 57 ปี จบ ร.ร.นายร้อยตำรวจ "นรต.รุ่น 26" รุนเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และศึกษาต่อ รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต จากม.ธรรมศาสตร์ ปี 2538 และนิติศาสตร์มหาบัณฑิต ม.สุโขทัยธรรมาธิราช ปี 2543 ผ่านอบรมหลักสูตร ร.ร.ผบก.รุ่น 18 และ วปอ.รุ่น 48

เส้นทางสีกากีเริ่ม ปี 2516 เป็น ผบ.มว.ประจำ กก.สอ.ตชด. จากนั้นเติบโตผ่านตำแหน่งสำคัญในกองปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) อาทิ รอง สว.ผ.5 กก.5 ป. รอง สว.ผ.4 กก.2 ป. ผู้ช่วย นว.ผบก.ป. นว.ผบก.ป. สว.ผ.ธุรการ กก.นผ.บก.อก.บช.ก. สว.ผ.7 กก.8 ป. สว.ผ.8 กก.8 ป. รอง ผกก.1 ป. ผกก.1 ป. รอง ผบก.ป. รอง ผบก.อก.บช.ก.

เป็นนายพล(พล.ต.ต.) ครั้งแรก ปี 2544 เป็นผบก.อก.บช.ก. โยกเป็น ผบก.ทล. ปี 2546 ขึ้นรอง ผบช.ก. ปี 2547 โยกมารอง ผบช.น. พฤษภาคม ปี 2551

ติดยศ "พล.ต.ท." นั่งเก้าอี้ร้อนเป็น"ผบช.น."ในเดือนตุลาคม ที่เพิ่งผ่านมา

แต่เส้นทางของ"พล.ต.ท.สุชาติ"จะ รุ่งโรจน์ยาวไกลจนถึงเกษียณปี 2554 หรือไม่ ยังต้องจับตา จะสอบผ่านเป็น ผบ.คุมเหตุการณ์พันธมิตร ยึดทำเนียบรัฐบาลอยู่ในขณะนี้ได้หรือไม่

เป็นคนสั่งให้ดักจับ"ไชยวัฒน์ สินสุวงศ์"หนึ่งในแกนนำพันธมิตรฯสร้างผลงานชิ้นโบว์แดง เพื่อสนอง"นาย"

ล่าสุด เขาสั่งใช้แก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมกลุ่มพันธมิตร ที่รัฐสภา โดยให้เหตุผลว่าป้องกันสถานการณ์ความรุนแรงที่อาจจะเกิดขึ้นได้

กลุ่มพันธมิตร ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก จากการสั่งการสกัดกั้นผู้ชุมนุมในครั้งนี้

เพียงไม่กี่วันที่พล.ต.ท.สุชาติ นั่งผบช.น.ได้ใช้อำนาจเล่นงานกลุ่มพันธมิตร

กาฟากสังคม


วันนี้มี 2 อารมณ์

อารมณ์แรก รู้สึกเศร้าและสลดหดหู่จังเลย.....

คนแรกต่อสู้เพื่อเงินทองและอำนาจ
คนที่ 2 ต่อสู้เพื่อคนแรก
คนอีกหลายคนต่อสู้เพื่อสร้างบรรทัดฐานทางจริยธรรมที่ดีงาม
ส่วนคนๆ นี้....ไม่ได้ทำอะไรเลย ได้แต่รอรับผลบุญ

อารมณ์ที่ 2 คือ สงสัยคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะในกรุงเทพ คิดอะไรกันอยู่

วันนี้นั่งเรียนข้างน้องคนนึง เก่งมาก อาจารย์สอนยังไม่ทันจบ ทำ assignment เสร็จแล้ว
เพราะอยากให้อาจารย์สอนจบไวๆ
เค้ากำลังคิดว่าเลิกเรียนแล้วจะไป Emporium หรือ Paragon ดี
ได้คุยกับคนที่มาอบรมด้วยกัน ไม่มีใครพูดถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าสักคน

เรียนเสร็จ เปิดวิทยุฟัง...เค้าก็คุยกันเรื่องทั่วๆ ไป ... เหมือนวันๆ หนึ่งปกติ
หรือจริงๆ แล้วคนที่เค้าเฉยกับเหตุการณ์นี้ ไม่ใช่พลังเงียบ และไม่ใช่พลังอะไรเลย
เค้าไม่อยู่ข้างใดข้างหนึ่งเลยเหรอ
จริงๆ แล้วมันมีด้วยเหรอคนที่ไม่อยู่ข้างไหนทั้งนั้น
เป็นไปได้เหรอที่เราไม่มีความเชื่อที่เอนเอียงไปทางใดสักนิด
หรือจริงๆ แล้วเค้าไม่ได้เอาเรื่องนี้มาคิดวะ

ภาพจาก manager.com